
ก้องไกล ส.สมหมาย คืนสังเวียนดวล เฟอร์รารี แฟร์เท็กซ์ ในศึก ONE ลุมพินี 122
แฟนมวยไทยเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อ ก้องไกล ส.สมหมาย นักชกสายบู๊วัย 26 ปี จากจังหวัดพิษณุโลก เตรียมกลับมากู้ศรัทธาบนสังเวียนอีกครั้ง ด้วยการพบกับ เฟอร์รารี แฟร์เท็กซ์ ยอดมวยจอมฝีมือวัย 28 ปี จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศึกครั้งนี้จะเป็นการปะทะกันอย่างดุเดือดในกติกา มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135–145 ปอนด์) ซึ่งถูกจับตามองว่าเป็นไฟต์สำคัญของทั้งสองคน ไฟต์นี้จะจัดขึ้นในรายการ ONE ลุมพินี 122 ที่เวทีมวยลุมพินี (รามอินทรา) วันที่ 29 สิงหาคมนี้ เริ่มชกตั้งแต่เวลา 19.30 น. และถ่ายทอดสดไปยังแฟนกีฬาทั่วโลกกว่า 195 ประเทศ ทำให้ทั้งก้องไกลและเฟอร์รารีต้องเตรียมร่างกายและจิตใจอย่างเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ตัวเองในเวทีระดับโลก ก้องไกล ส.สมหมาย ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักมวยจอมบู๊ที่เดินหน้าชนไม่ถอย สไตล์การชกที่เน้นความแข็งแกร่งและหัวใจนักสู้ ทำให้แฟน ๆ คาดหวังว่าจะได้เห็นการต่อสู้ที่ดุดัน ขณะที่ เฟอร์รารี แฟร์เท็กซ์ ขึ้นชื่อเรื่องชั้นเชิงและความแม่นยำของอาวุธมวยไทย จึงทำให้การดวลกันครั้งนี้เต็มไปด้วยสีสันและความน่าตื่นเต้น การพบกันของทั้งคู่ไม่เพียงเป็นการชิงชัยเพื่อชัยชนะ แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ศักดิ์ศรีของยอดมวยไทยสองคนที่ต่างมีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นทั่วประเทศ แฟนมวยจึงไม่ควรพลาดการปะทะเดือดใน ONE ลุมพินี 122 ที่สัญญาว่าจะเป็นอีกหนึ่งไฟต์ที่ตรึงตาตรึงใจอย่างแน่นอน
แอนตาร์ vs ก้องไกล (6 ธ.ค.67)
ก้องไกล ส.สมหมาย ยอดมวยจอมบู๊ คืนสังเวียน ONE ลุมพินี หวังล้างตาหลังสะดุดฟอร์ม
หากพูดถึงนักมวยไทยที่ขึ้นสังเวียนเมื่อใดแฟน ๆ ต่างจับตามองด้วยความคาดหวัง ชื่อของ ก้องไกล ส.สมหมาย ต้องติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน นักชกวัย 26 ปีรายนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นมวยสายบู๊ที่ไม่เคยถอยหลัง ทุกครั้งที่ก้าวขึ้นเวทีแฟน ๆ จึงมั่นใจว่าจะได้เห็นไฟต์ที่ดุเดือดเร้าใจ และเต็มไปด้วยหัวใจนักสู้ที่แท้จริง ก้องไกลเริ่มสร้างชื่อเสียงใน ONE ลุมพินี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยสามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน และที่สำคัญคือชัยชนะทั้งหมดนั้นจบลงแบบ “ไม่ครบยก” ด้วยพลังหมัดและอาวุธหนักหน่วงที่ปิดเกมคู่ต่อสู้ได้อย่างเด็ดขาด ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้เขากวาดโบนัสรวมแล้วกว่า 1,400,000 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนบาท) นี่ยังไม่รวมค่าตัวจากการขึ้นชกที่ได้รับในแต่ละครั้ง ซึ่งตอกย้ำว่าเขาเป็นนักมวยที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ อย่างไรก็ตาม เส้นทางของยอดมวยไทยไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เมื่อเข้าสู่การแข่งขันในไฟต์ต่อ ๆ มา ฟอร์มของ ก้องไกล ส.สมหมาย เริ่มสะดุด โดยใน 5 ไฟต์หลังสุด เขาไม่สามารถรักษามาตรฐานเดิมได้เหมือนช่วงแรก และต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่มีชั้นเชิงหลากหลายมากขึ้น ทำให้ผลงานไม่เป็นไปตามความคาดหวังของแฟนมวย
ไฟต์ล่าสุดที่แฟน ๆ ยังจำได้ดีคือการเจอกับ แอนตาร์ คาเซม นักชกสายพันธุ์ฝรั่งเศส-เบลารุส ในศึก ONE ลุมพินี 90 ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นวันที่น่าผิดหวังสำหรับก้องไกล เมื่อเขาพลาดท่าโดนอาวุธรุนแรงจนถูกน็อกตั้งแต่ต้นยกสอง ทำให้ต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวด พร้อมทั้งเจอกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างหนัก ถึงแม้จะสะดุดในเส้นทางอาชีพ แต่แฟนมวยหลายคนยังคงเชื่อมั่นว่า ก้องไกลยังมีศักยภาพและหัวใจนักสู้ที่พร้อมกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง เพราะสไตล์การชกที่เน้นเดินหน้า กดดันคู่ต่อสู้ และความแข็งแกร่งที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ยังคงเป็นอาวุธสำคัญที่เขาสามารถใช้พลิกสถานการณ์ได้เสมอ การกลับมาของก้องไกลในไฟต์ถัดไป จึงเป็นมากกว่าการแข่งขันธรรมดา แต่มันคือ “การกู้ศรัทธา” และการแสดงให้เห็นว่าเขายังเป็นนักมวยไทยที่คู่ควรกับสังเวียนระดับโลกอย่าง ONE Championship ไม่ว่าเขาจะต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเพียงใด แฟนมวยก็ยังคงรอชมลีลาการชกของเขาด้วยความตื่นเต้น สำหรับแฟนกีฬาที่ติดตามศึก ONE ลุมพินี อยู่แล้ว นี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นว่าการแข่งขันบนเวทีระดับโลกไม่ได้วัดกันเพียงฝีมือเท่านั้น แต่ยังเป็นการทดสอบจิตใจ ความอดทน และแรงศรัทธาของนักสู้ที่พร้อมพิสูจน์ตัวเองต่อสายตาแฟนมวยทั่วโลก

ก้องไกลกล่าวว่า
“ช่วงที่ฟอร์มไม่ดี ผมเจอกับคำวิจารณ์มากมาย มีบ้างที่รู้สึกท้อ แต่ไม่นานก็ปลุกกำลังใจตัวเองให้กลับมาซ้อมต่อ แม้ผลงานช่วงหลังจะไม่สวยนัก แต่ผมดีใจที่รายการยังให้โอกาสผมกลับมาชก ครั้งนี้ ผมมั่นใจมากเพราะซ้อมมาอย่างต่อเนื่องกว่า 4 เดือน สภาพร่างกายสมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่ชกมวยมา ครั้งนี้ผมแพ้ไม่ได้อีกแล้ว ตั้งใจจะคว้าชัยชนะให้ได้”
ก้องไกลย้ายซ้อมค่ายพีเค.แสนชัย เตรียมคืนสังเวียน ONE ลุมพินี อย่างยิ่งใหญ่
การกลับคืนสู่สังเวียนของก้องไกล ยอดมวยขาลุยวัย 26 ปี กำลังเป็นที่จับตามองอย่างมากในศึก ONE ลุมพินี ที่จะมาถึง หลังจากต้องเจอกับช่วงเวลายากลำบากในไฟต์ที่ผ่านมา เจ้าตัวตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยการย้ายฐานซ้อมไปที่ ค่ายพีเค.แสนชัย ย่านพระราม 3 เพื่อเพิ่มพลังและประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง การซ้อมในค่ายดังอย่าง พีเค.แสนชัย ทำให้ก้องไกลได้โอกาสฝึกซ้อมกับบรรดายอดนักชกระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) และ “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลกสองกติกา รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นไอดอลและแรงบันดาลใจสำคัญในการผลักดันก้องไกลกลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อีกครั้ง นอกจากนี้ ก้องไกลยังได้ร่วมฝึกซ้อมกับ “กิ่งซางเล็ก ว.คำชำนาญ” เพื่อนร่วมค่ายที่เพิ่งสร้างชื่อด้วยการเอาชนะนักชกต่างชาติแบบไม่ครบยกถึง 2 ไฟต์ติดต่อกัน ความสำเร็จเหล่านี้กลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ก้องไกลตั้งใจอยากเดินตามรอย และกลับมาสร้างชื่อเสียงให้แฟนมวยไทยได้ภูมิใจอีกครั้ง เจ้าตัวเผยว่าการซ้อมภายใต้ค่าย พีเค.แสนชัย ไม่เพียงช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งด้านร่างกาย แต่ยังทำให้เขาได้เรียนรู้เทคนิคและแท็กติกใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้การขึ้นชกใน ONE ลุมพินี รอบต่อไปดุดันและเฉียบคมยิ่งกว่าเดิม โดยเป้าหมายสำคัญคือการคืนฟอร์มเก่ง ปิดเกมคู่ต่อสู้ให้ได้อย่างสวยงาม และเรียกศรัทธากลับคืนจากแฟนมวยทั่วประเทศ แฟน ๆ มวยไทยจึงไม่ควรพลาดการกลับมาของก้องไกลที่ครั้งนี้เจ้าตัวมั่นใจเต็มร้อยว่า จะทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และพร้อมไล่ล่าความสำเร็จบนเส้นทางอาชีพในเวที ONE ลุมพินี ต่อไปอย่างแน่นอน
ก้องไกลกล่าวว่า
“ตอนนี้ผมซ้อมที่ค่าย พีเค. ครบครึ่งปีแล้ว รู้สึกว่าทุกอย่างพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยเสริม อีกทั้งยังมี พระจันทร์ฉาย คอยให้คำแนะนำ สอนเทคนิค และช่วยแก้เกมให้อย่างใกล้ชิด การได้ฝึกซ้อมกับคนที่เจนสนาม ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา เพราะเขาจะใส่ใจในจุดที่เราบกพร่องและปรับแก้ให้ทุกขั้นตอนครับ”
“และสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมไม่ยอมถอดใจ คือได้เห็นนักมวยหลายคนในค่ายที่มาชกใน ONE แม้เคยแพ้หลายครั้ง แต่ยังกลับมาแจ้งเกิดได้ อย่างเช่น กิ่งซางเล็ก เขาก็กลับมาได้ แล้วทำไมผมจะกลับมาไม่ได้”

ก้องไกล ดวล เฟอร์รารี ศึก ONE ลุมพินี 122 ไฟต์สำคัญชี้ชะตา
การกลับมาของก้องไกลถือเป็นอีกหนึ่งไฟต์ที่แฟนมวยไทยจับตามองอย่างมาก เมื่อเจ้าตัวมีคิวขึ้นสังเวียนพบกับ เฟอร์รารี แฟร์เท็กซ์ ในศึก ONE ลุมพินี 122 วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ณ เวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยการแข่งขันจะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นศึกใหญ่ที่มีความหมายต่อเส้นทางอาชีพของทั้งคู่ สำหรับก้องไกล วัย 26 ปี จากพิษณุโลก ไฟต์นี้เปรียบเสมือนการสู้เพื่อต่อลมหายใจในเส้นทางมวยไทยอาชีพ หลังจากผลงานในช่วงหลังสะดุดจนเจอกระแสวิจารณ์อย่างหนัก เจ้าตัวจึงตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าจะต้องคว้าชัยชนะให้ได้ เพื่อปลดล็อกสถานการณ์ที่ย่ำแย่และกลับมาได้รับการยอมรับอีกครั้ง โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับ เฟอร์รารี ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักชกมากฝีมือ ด้าน เฟอร์รารี แฟร์เท็กซ์ วัย 28 ปี จากสุราษฎร์ธานี เป็นเจ้าของรางวัล ยอดมวยปี 2564 และมีสถิติในศึก ONE ที่ไม่ธรรมดา ชนะ 5 จาก 8 ไฟต์ ซึ่งทุกชัยชนะมาจากการปราบนักชกต่างชาติชื่อดังทั้งสิ้น จุดเด่นของเขาคือสไตล์การชกที่ดุดัน แข็งแกร่ง และอ่านเกมขาด อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเพิ่งพ้นโทษแบน 3 เดือนจากการตรวจพบสารกระตุ้น และไฟต์นี้จึงเป็นเหมือนการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งเพื่อกู้ศรัทธาคืนมา
ความน่าสนใจอีกประการคือ ทั้งคู่ไม่ใช่คนแปลกหน้า เนื่องจากเคยผ่านการซ้อมร่วมกันที่ค่ายแฟร์เท็กซ์ แม้เป็นช่วงสั้น ๆ แต่ก็ทำให้ก้องไกลรู้จักสไตล์และศักยภาพของคู่ต่อสู้เป็นอย่างดี ซึ่งเจ้าตัวเชื่อมั่นว่าการเตรียมตัวครั้งนี้ทำได้อย่างรอบคอบ และพร้อมนำประสบการณ์ที่สะสมมาต่อยอดบนเวทีจริง ด้วยศักดิ์ศรีและเป้าหมายที่ชัดเจน ไฟต์ระหว่าง ก้องไกล ปะทะ เฟอร์รารี ในศึก ONE ลุมพินี 122 จึงถูกยกให้เป็นคู่เอกที่ไม่ควรพลาด แฟนมวยไทยต่างคาดหวังว่าจะได้เห็นเกมการชกที่เข้มข้น ดุเดือด และเต็มไปด้วยกลยุทธ์ โดยเฉพาะเมื่อทั้งคู่ต่างอยู่ในจุดที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง การแข่งขันครั้งนี้จึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเส้นทางอาชีพของทั้งสองนักชก แฟน ๆ สามารถติดตามชมศึกนี้ได้พร้อมกันทั่วโลกในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น. ซึ่งไม่เพียงแต่จะได้เห็นการปะทะเดือดระหว่างสองยอดนักมวยไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์หัวใจนักสู้ของก้องไกล และการคืนสังเวียนของ เฟอร์รารี ที่พร้อมตามล่าความสำเร็จอีกครั้ง
เฟอร์รารี แฟร์เท็กซ์
ก้องไกลกล่าวว่า
“ตอนที่รู้ว่าจะได้เจอกันกับ เฟอร์รารี ผมตกใจเหมือนกัน เพราะเราเคยซ้อมปล้ำกันตอนที่ผมถูกส่งตัวไปซ้อมที่ค่ายแฟร์เท็กซ์ ซึ่งผมเห็นว่าเกมวงในเขาแข็งจริง อีกอย่าง เขาเป็นมวยสูงยาว อาวุธครบเครื่อง โดยเฉพาะศอกงัดหน้าและแข้งที่อันตราย ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่ชกด้วยยากมาก ถ้าไปสู้ในทางถนัดของเขาเราจะเสียเปรียบ”
“ส่วนจุดอ่อนของเขากับผมคล้ายกันตรงที่รับอาวุธหนักไม่ค่อยได้ ดังนั้น ใครพลาดก่อนก็มีสิทธิ์หล่นได้ทันทีไฟต์นี้ผมจึงเตรียมหมัด ศอก และแข้งขาไว้พร้อมเปิดเกมแลก เชื่อว่าจะสู้กันสนุกแน่นอน”

ก้องไกลกล่าวว่า
“ผมกับเขาต่างก็อยากชนะเพื่อกลับมาแจ้งเกิด เราคงต้องวัดกันไปเลย ผมต้องชนะให้ได้ เพื่อโอกาสได้ไปต่อในรายการนี้”
ติดตาม “เฟอร์รารี vs ก้องไกล” ศึก ONE ลุมพินี 122 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 29 ส.ค.นี้
ติดตามข่าวสารวงการมวย ได้ที่ มวยวัน วันนี้ ดูโปรแกมมวยอ่านข่าวมวย หรือติดตาม ผลมวย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สนใจแทงมวยออนไลน์ได้ที่ @UFA88SV3













