ชาโด้ สิงห์มาวิน เตรียมบู๊เดือด บัมปารา คูยาเต ในศึก ONE Fight Night 35
ศึก ONE Fight Night 35: แจ็กกี vs สเตลลา กำลังเป็นที่จับตามองจากแฟนมวยทั่วโลก โดยคู่รองสุดมันส์ที่แฟน ๆ ไม่ควรพลาดคือการเจอกันระหว่าง ชาโด้ สิงห์มาวิน จอมบู๊ยอดกตัญญูจากเมืองตาก ที่พร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อแย่งตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 2 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ปอนด์) มาพบกับ บัมปารา คูยาเต นักชกมากฝีมือเชื้อสายฝรั่งเศส-มาลี ที่ขึ้นชื่อเรื่องพลังหมัดอันหนักหน่วงและสไตล์การชกดุดัน สำหรับ ชาโด้ สิงห์มาวิน นับเป็นนักชกไทยที่มีหัวใจนักสู้เต็มเปี่ยม เขามักสร้างความประทับใจด้วยสไตล์การเดินชนไม่ถอย พร้อมอาวุธครบเครื่องทั้งหมัด เข่า ศอก และลูกเตะที่เฉียบคม ไฟต์นี้จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการพิสูจน์ฝีมือและคว้าสิทธิ์ขึ้นชิงตำแหน่งระดับท็อปของแรงกิงในรุ่นเฟเธอร์เวต หากสามารถเก็บชัยชนะเหนือ บัมปารา คูยาเต ได้ จะช่วยยกระดับชื่อเสียงและโอกาสบนเวทีโลกของเขามากขึ้น ด้าน บัมปารา คูยาเต เป็นนักชกต่างชาติที่แฟนมวยไทยเริ่มจับตามอง ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพและสไตล์การชกที่อันตราย เขามักใช้จังหวะออกอาวุธที่แม่นยำและหนักแน่น ทำให้ไฟต์นี้ยิ่งน่าติดตาม เพราะเป็นการปะทะกันระหว่างพลังความแข็งแกร่งแบบยุโรปผสมแอฟริกา กับความครบเครื่องและหัวใจนักสู้ของมวยไทยแท้ การแข่งขันในครั้งนี้จะจัดขึ้นภายใต้กติกา มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต บนสังเวียน สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ซึ่งเป็นเวทีศักดิ์สิทธิ์ของชาวไทยและเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดย ONE Fight Night 35 จะถ่ายทอดสดในช่วงไพรม์ไทม์ของสหรัฐอเมริกา ตรงกับเวลา 08:00 น. ของวันเสาร์ที่ 6 กันยายนนี้ในประเทศไทย แฟนมวยไทยและแฟนกีฬาทั่วโลกสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ครบทุกคู่ ครบทุกรสชาติของศิลปะแม่ไม้มวยไทย ไฟต์ระหว่าง ชาโด้ สิงห์มาวิน vs บัมปารา คูยาเต ถือเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ตอกย้ำว่า ONE Championship กำลังยกระดับมวยไทยสู่เวทีโลก และแฟนมวยไม่ควรพลาดการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์นี้
ชาโด้ สิงห์มาวิน สานต่อเส้นทางสู่เวทีมวยโลก ONE หลังโชว์ผลงานสุดร้อนแรง
“ชาโด้ สิงห์มาวิน” หนึ่งในนักมวยไทยไฟแรงที่กำลังเป็นที่จับตามอง หลังพิสูจน์ฝีมือจนแฟนมวยทั่วโลกต่างยกให้เป็นดาวรุ่งตัวจริง เจ้าตัวสร้างชื่อบนเวที ONE ลุมพินี ด้วยการเก็บชัยชนะ 5 จาก 6 ไฟต์ จนคว้าสัญญา ONE Championship ฉบับที่ 24 มาครองได้สำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของนักสู้จากเมืองตากคนนี้ ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชาโด้ได้โอกาสเปิดตัวบนเวที ONE Fight Night 33 รายการใหญ่ที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก โดยต้องเจอกับ “โมฮาเหม็ด ยูเนส ราบาห์” นักสู้มากประสบการณ์จากแอลจีเรีย ไฟต์นี้ถือเป็นอีกบททดสอบครั้งสำคัญที่ทำให้แฟนมวยเห็นถึงความแข็งแกร่งและพัฒนาการของชาโด้ ที่พร้อมต่อกรกับคู่ชกระดับนานาชาติในกติกามวยไทย การได้ขึ้นชกบนเวที ONE (ใหญ่) ไม่เพียงเป็นความสำเร็จส่วนตัวของ ชาโด้ สิงห์มาวิน แต่ยังเป็นการตอกย้ำว่ามวยไทยยังคงทรงพลังในระดับโลก ด้วยสไตล์การต่อสู้ที่ครบเครื่องและความดุดัน ทำให้เขากลายเป็นอีกหนึ่งนักสู้ที่หลายคนคาดหวังว่าจะก้าวไปสู่แรงกิงอันดับต้น ๆ ของ ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ได้ในอนาคต ด้วยสถิติและผลงานที่พิสูจน์แล้วว่าไม่ธรรมดา เส้นทางของชาโด้ยังคงน่าจับตาอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่เขาขึ้นสังเวียนในศึก ONE แฟนมวยต่างเฝ้ารอว่าเขาจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการมวยไทยได้หรือไม่ การก้าวสู่ระดับโลกครั้งนี้ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ และชาโด้พร้อมแล้วที่จะสานฝันต่อไปบนเวที ONE
ศึก ONE Fight Night 33 ชาโด้ สิงห์มาวิน เจอเหตุไม่คาดฝัน จบไฟต์แบบ No Contest
บนเวที ONE Fight Night 33 แฟนมวยต่างตั้งตารอดูการเปิดตัวของชาโด้นักมวยไทยดาวรุ่งที่สร้างชื่อจากเวที ONE ลุมพินี ด้วยฟอร์มการชกอันดุดัน และชัยชนะที่น่าประทับใจ ไฟต์นี้ชาโด้ได้ดวลกับ “โมฮาเหม็ด ยูเนส ราบาห์” คู่ชกจากแอลจีเรีย ซึ่งถูกมองว่าเป็นบททดสอบสำคัญในเส้นทางก้าวสู่ระดับโลกของเขา ทันทีที่ระฆังยกแรกดังขึ้น ชาโด้โชว์ความมั่นใจด้วยการเดินหน้าสาดหมัดอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเรียกนับจากโมฮาเหม็ดได้สำเร็จ สร้างความฮือฮาให้กับแฟนมวยทั่วโลกที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดไฟต์นี้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในยกที่ 2 เมื่อชาโด้พลาดใช้นิ้วจิ้มเข้าที่ดวงตาของโมฮาเหม็ดโดยไม่ตั้งใจ ทำให้กรรมการต้องเรียกทีมแพทย์เข้ามาตรวจอย่างละเอียด หลังการตรวจร่างกาย ทีมแพทย์ตัดสินว่าโมฮาเหม็ดไม่สามารถแข่งขันต่อได้ ส่งผลให้ไฟต์นี้ต้องยุติลงก่อนครบ 2 ยก ซึ่งตามกติกาของ ONE Championship หากการแข่งขันไม่จบยกที่ 2 (ในกรณีชก 3 ยก) จะไม่สามารถรวมคะแนนตัดสินได้ และกรรมการจึงประกาศผลการแข่งขันเป็น “No Contest” หรือไม่มีผลการตัดสิน แม้ผลไฟต์นี้จะจบลงแบบไม่เป็นไปตามที่แฟนมวยคาดหวัง แต่การออกตัวอย่างร้อนแรงในยกแรกยังคงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและสไตล์การชกอันดุดันของชาโด้ ที่พร้อมสร้างสีสันบนเวที ONE ต่อไป แฟน ๆ ยังมั่นใจว่าหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาจะกลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม และพร้อมไล่ล่าความสำเร็จบนเวทีระดับโลกให้สำเร็จในอนาคต
ชาโด้ สิงห์มาวิน พร้อมรีแมตช์ โมฮาเหม็ด หลังศึก ONE Fight Night จบแบบ No Contest
แม้ผลการแข่งขันไฟต์เปิดตัวบนเวที ONE Fight Night จะไม่เป็นไปตามที่แฟนมวยคาดหวัง แต่ชาโด้ยังคงแสดงสปิริตของนักสู้มืออาชีพ ด้วยการยอมรับผลการตัดสินที่ออกมาเป็น “No Contest” จากเหตุการณ์พลาดทำนิ้วจิ้มตาคู่ชกอย่าง “โมฮาเหม็ด ยูเนส ราบาห์” จนไม่สามารถแข่งขันต่อได้ในยกที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามกติกาของ ONE Championship ไฟต์ดังกล่าวสร้างกระแสความสนใจอย่างมาก เพราะชาโด้เปิดเกมมาอย่างร้อนแรงตั้งแต่ยกแรก ด้วยการเดินหน้าสาดหมัดใส่โมฮาเหม็ดจนเรียกนับได้สำเร็จ ทำให้แฟนมวยเชื่อว่าเขามีโอกาสคว้าชัยในการประเดิมศึกใหญ่บนเวทีระดับโลก ทว่าด้วยเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้น กลับทำให้ผลลัพธ์กลายเป็นไฟต์ที่ไร้การตัดสิน หลังการแข่งขัน ชาโด้ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเขายอมรับผลที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง พร้อมประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่า หากมีโอกาส เขาพร้อมขึ้นสังเวียนรีแมตช์กับ โมฮาเหม็ด อีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ให้แฟนมวยทั่วโลกได้เห็นอย่างชัดเจนว่าใครกันแน่ที่เหนือกว่า การแสดงสปิริตเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความเป็นนักมวยไทยที่มีหัวใจนักสู้ แต่ยังสร้างความเคารพจากแฟน ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้ไฟต์แรกบนเวที ONE Fight Night จะจบลงแบบไร้บทสรุป แต่แฟนมวยต่างเชื่อว่ารีแมตช์ระหว่าง ชาโด้ สิงห์มาวิน vs โมฮาเหม็ด จะเป็นอีกหนึ่งศึกเดือดที่ทุกคนรอคอย และอาจกลายเป็นไฟต์ที่พิสูจน์ความแข็งแกร่งของนักชกไทยบนเวที ONE Championship ได้อย่างแท้จริง
ชาโด้พร้อมลุยศึกชี้ชะตา ปะทะ บัมปารา ชิงตำแหน่งแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต
การกลับมาครั้งนี้ของ “ชาโด้ สิงห์มาวิน” ได้รับการจับตามองจากแฟนมวยทั่วโลกอย่างมาก เพราะเขากำลังอยู่ในเส้นทางลุ้นตำแหน่งแชมป์ ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ปอนด์) โดยปัจจุบัน ชาโด้ครองอันดับผู้ท้าชิงที่ 3 และกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้สุดโหดอย่าง “บัมปารา คูยาเต” นักชกเชื้อสายฝรั่งเศส-มาลี ที่ขึ้นแรงกิงเป็นอันดับ 2 ของรุ่นนี้ ไฟต์นี้ถือเป็นศึกสำคัญอย่างแท้จริง เพราะผลลัพธ์จะกำหนดทิศทางอนาคตของเส้นทางสู่บัลลังก์ ONE Championship ของชาโด้ หากเขาสามารถเอาชนะบัมปาราได้ จะเป็นการขยับเข้าใกล้การชิงแชมป์โลกไปอีกก้าว ซึ่งเป็นความฝันสูงสุดที่นักชกไทยรายนี้ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่สังเวียนระดับโลก ชาโด้ขึ้นชื่อในเรื่องสไตล์การชกดุดันและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เขาไม่เพียงเป็นนักสู้ที่มีฝีมือครบเครื่อง แต่ยังเป็น จอมบู๊ยอดกตัญญูจากเมืองตาก ที่สู้ด้วยแรงศรัทธาและแรงใจจากครอบครัว ทำให้ทุกไฟต์ที่เขาลงชกเต็มไปด้วยความหมายมากกว่าชัยชนะธรรมดา การเจอกับบัมปาราในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการต่อสู้เพื่อแรงกิง แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ตัวตนในฐานะนักสู้ระดับโลกของเขาอีกด้วย ด้านบัมปาราเองถือเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา ด้วยเทคนิคเฉียบคมและประสบการณ์โชกโชนในเวทีมวยไทยระดับนานาชาติ เขาคือกำแพงสำคัญที่ชาโด้จะต้องฝ่าไปให้ได้ หากต้องการเข้าใกล้เป้าหมายการขึ้นชิงบัลลังก์ของรุ่นนี้ ศึกครั้งนี้จะจัดขึ้นในรายการ ONE Fight Night ซึ่งถ่ายทอดสดตรงจากเวทีลุมพินี สังเวียนประวัติศาสตร์ของวงการมวยไทย งานนี้แฟน ๆ ต่างรอคอยที่จะได้เห็นว่า ระหว่าง ชาโด้ สิงห์มาวิน กับ บัมปารา คูยาเต ใครจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ตัวจริงของ ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต
ชาโด้กล่าวว่า
“ตอนที่รายการติดต่อมาว่าจะต้องเจอกับ บัมปารา ผมรู้สึกดีใจมากครับ เพราะเขาเป็นถึงอันดับ 2 ของแรงกิงในรุ่นนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่ผมจะพิสูจน์ตัวเองและก้าวขึ้นไปอีกระดับ ถ้าชนะไฟต์นี้ได้ ผมก็อาจจะมีโอกาสขึ้นไปชิงแชมป์ได้เลยครับ”
ฟอร์มปัจจุบันของ บัมปารา ท้าชาโด้ ศึก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต
ฟอร์มปัจจุบันของ “บัมปารา คูยาเต” นักชกฝีมือฉกาจจากฝรั่งเศส-มาลี เรียกได้ว่ากำลังพีกสุดขีดในแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต หลังจากสร้างความประทับใจต่อแฟนมวยด้วยผลงานการชนะทีเคโอ 2 ไฟต์ติด โดยไฟต์แรกเขาเอาชนะ “ลุค ลิสซีย์” นักชกจากสหรัฐอเมริกาได้อย่างเด็ดขาด ก่อนจะตอกย้ำความแข็งแกร่งด้วยชัยชนะเหนือ “โจ ณัฐวุฒิ” นักมวยไทยฝีมือดี ในศึก ONE 170 เมื่อเดือนมกราคม 68 ที่ผ่านมา ชัยชนะต่อเนื่องของบัมปารา ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ของเขาเท่านั้น แต่ยังทำให้แฟนมวยทั่วโลกจับตามองว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่หนักหน่วงที่สุดสำหรับคู่ชกทุกคนที่ขึ้นเวที ONE มวยไทย โดยเฉพาะกับนักสู้ชาวไทยที่ต้องเผชิญหน้ากับนักชกก้านยาวฝีมือครบเครื่องเช่นเขา ด้านชาโด้ จอมบู๊ยอดกตัญญูจากเมืองตาก ที่ครองตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 3 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ยืนยันว่าไฟต์นี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เจ้าตัวได้ศึกษาสไตล์การต่อสู้ของบัมปาราอย่างละเอียดแล้ว ทั้งเรื่องระยะยืน การออกอาวุธ และวิธีเข้าทำในจังหวะต่าง ๆ เพื่อเตรียมแผนแก้ทางอย่างรัดกุม และตั้งเป้าจะคว้าแต้มชัยสำคัญมาครองให้แฟนมวยทั่วประเทศได้ชื่นใจ ชาโด้กล่าวว่าไฟต์นี้ถือเป็นโอกาสทองฝังเพชรที่จะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่เคยสร้างผลงานโดดเด่นในศึก ONE ลุมพินี ด้วยการชนะ 5 จาก 6 ไฟต์ และคว้าสัญญา ONE ฉบับที่ 24 ของรายการ การเผชิญหน้ากับบัมปาราไม่เพียงเป็นการทดสอบฝีมือเท่านั้น แต่ยังเป็นการตัดสินชะตากรรมในแรงกิงรุ่นเฟเธอร์เวตอีกด้วย แฟนมวยทั่วโลกต่างจับตามองการปะทะระหว่าง ชาโด้ vs บัมปารา ในศึก ONE Fight Night 35: แจ็กกี vs สเตลลา ซึ่งจะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ตรงกับเวลา 08:00 น. ของวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 68 ความเข้มข้นของไฟต์นี้จึงไม่ควรพลาด เพราะนอกจากเป็นการต่อสู้เพื่อแต้มแรงกิงแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับชาโด้ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ท้าชิงอันดับ 2 และเข้าใกล้การชิงบัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต
ชาโด้กล่าวว่า
“บัมปารา เป็นนักชกที่เก่งและมีรูปร่างสูงใหญ่ นอกจากจะมีฟุตเวิร์กยอดเยี่ยมแล้ว เขายังปล่อยหมัดได้ดีและไวมากด้วย ส่วนฟอร์ม 2 ไฟต์ล่าสุดที่เขาชนะมาถือว่าน่ากลัวพอสมควร ซึ่งผมจะต้องหาจังหวะเข้าทำและออกให้เร็ว เพื่อเลี่ยงไม่ให้โดนหมัดของเขา”
“ไฟต์นี้ผมเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นทุกส่วนและเน้นจังหวะเตะให้แม่นขึ้นด้วย อีกอย่าง ผมเตรียมศอกมาแก้ช่วงชกที่เสียเปรียบ เพราะถ้าไปยืนแลกกับเขาตรง ๆ ผมน่าจะโดนเขาชกมากกว่าชกโดนเขาครับ”
ชาโด้กล่าวว่า
“การได้ชกในบ้านถือเป็นข้อได้เปรียบเพราะมีกองเชียร์ในสนามเยอะ ซึ่งยิ่งทำให้ผมรู้สึกมีกําลังใจ และผมมั่นใจว่าไฟต์นี้ต้องมีคนโดนน็อกแน่นอน ผมจะพยายามเอาชนะสวย ๆ ให้ได้ เพราะตอนนี้ ผมเข้าใกล้ความฝันที่จะขึ้นชิงแชมป์โลกของรุ่นนี้กับ ตะวันฉาย (พีเค.แสนชัย) มากแล้ว ผมจะพัฒนาขึ้นไปถึงเขาให้ได้ครับ”
ติดตาม “บัมปารา vs ชาโด้” ศึก ONE Fight Night 35: แจ็กกี vs สเตลลา ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 6 ก.ย. 68
ติดตามข่าวสารวงการมวย ได้ที่ มวยวัน วันนี้ ดูโปรแกมมวยอ่านข่าวมวย หรือติดตาม ผลมวย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สนใจแทงมวยออนไลน์ได้ที่ @UFA88SV2