สานิตย์ เอกเมืองนนท์ จอมบู๊ลีลาดีวัย 30 ปี จากจังหวัดกระบี่ พร้อมเดินหน้าสานต่อผลงานสุดร้อนแรง ด้วยเป้าหมายคว้าชัยน็อกรวดเป็นไฟต์ที่ 3 ติดต่อกัน ในการพบกับ สิงห์โดมทอง นกยีนส์ลาดกระบัง นักชกเชิงแน่นจากปัตตานี ภายใต้กติกา มวยไทยพิกัด 129 ปอนด์ ในฐานะคู่รองของศึก ONE ลุมพินี 128 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ส่งออกไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก ในวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคมนี้ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
ย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้นอาชีพ สานิตย์ เคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนนักมวยไทยหลายคน เมื่อรายได้จากการชกเพียงไม่กี่ไฟต์ต่อปีไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูครอบครัว จนต้องแบกรับหนี้สินจำนวนมาก แต่ด้วยใจนักสู้ เขาไม่เคยย่อท้อและยังคงมุ่งมั่นตามความฝันที่จะได้ขึ้นชกในเวทีระดับโลกอย่าง ONE Championship ที่เขาติดตามมาโดยตลอด สานิตย์ เอกเมืองนนท์ เปิดเผยว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจจากสองยอดนักชกซูเปอร์สตาร์ของไทยอย่าง ซุปเปอร์เล็ก มวยไทย และ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ที่ต่างสร้างชื่อเสียงในระดับโลก จนกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาตั้งใจพัฒนาฝีมือเพื่อก้าวตามรอยรุ่นพี่ให้ได้ โดยไฟต์นี้เจ้าตัวเตรียมแผนการชกและสภาพร่างกายมาอย่างเต็มที่ หวังโชว์ผลงานเดือดสะใจแฟนมวยทั่วโลก
หาก สานิตย์ สามารถเก็บชัยได้อีกครั้งในศึก ONE ลุมพินี 128 นี้ ก็จะยิ่งตอกย้ำศักยภาพของนักชกไทยรุ่นใหม่ และอาจเป็นก้าวสำคัญสู่การได้เซ็นสัญญาเข้าสู่รายการหลัก ONE Championship ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะเป็นการพลิกชีวิตจากหนี้สินสู่นักมวยดาวรุ่งระดับโลกอย่างแท้จริง
สานิตย์ เอกเมืองนนท์ เปิดใจเส้นทางพลิกชีวิต หลังโชว์ฟอร์มฮอตบนเวที ONE ลุมพินี
หลังจากต้องนั่งเป็นผู้ชมรายการ ONE Championship มานานหลายปี ในที่สุด สานิตย์ เอกเมืองนนท์ จอมบู๊จากกระบี่ก็ได้รับโอกาสสำคัญให้พิสูจน์ฝีมือบนสังเวียน ONE ลุมพินี ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตนักสู้ของเขา โดยเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก ONE ลุมพินี 119 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการปรับสไตล์การชกมาเป็นมวยบู๊เดินลุยออกอาวุธไม่หยุด ก่อนจะปิดเกมน็อก เซน โลน ชอว์ จากเมียนมาในยกที่ 2 ด้วยท่าคอมโบหมัดซ้ายตามด้วยก้านคอ พร้อมคว้าโบนัส 350,000 บาทเข้ากระเป๋าไปทันที ไม่เพียงเท่านั้น เดือนต่อมาในศึก ONE ลุมพินี 123 สานิตย์ ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง ด้วยการเอาชนะน็อก เอซากุ โอกาซาวาระ นักชกจากญี่ปุ่นได้อีกครั้งในยกที่ 2 เช่นเดิม ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นหนึ่งในนักมวยไทยดาวรุ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า การได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ONE ลุมพินี ไม่เพียงเปลี่ยนสถานะจากนักมวยธรรมดาให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่ของเขาและครอบครัวให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อีกหนึ่งจุดที่ทำให้ สานิตย์ เอกเมืองนนท์ กลายเป็นขวัญใจแฟนมวยทั่วประเทศ คือวลีเด็ด “กระบี่ไม่หมูนะจ๊ะ” ที่เจ้าตัวกล่าวออกมาหลังชนะไฟต์เปิดตัว ซึ่งกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์และถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดย สานิตย์ เผยเบื้องหลังวลีนี้ว่า ต้องการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวและแสดงความภาคภูมิใจในบ้านเกิดจังหวัดกระบี่ ที่เป็นต้นกำเนิดของเขาในเส้นทางนักมวย สำหรับศึกต่อไปใน ONE ลุมพินี 128 สานิตย์เตรียมกลับขึ้นสังเวียนอีกครั้งเพื่อต่อยอดฟอร์มร้อนแรง หวังปิดเกม สิงห์โดมทอง นกยีนส์ลาดกระบัง และสร้างสถิติน็อกรวด 3 ไฟต์ติดต่อกัน เพื่อพิสูจน์ให้แฟนมวยทั่วโลกเห็นว่า “กระบี่ไม่หมูจริง!”
สานิตย์กล่าวว่า
“ผมติดตามรายการ ONE มานานหลายปีแล้วครับ และมีความฝันอยากขึ้นชกในรายการนี้มาตลอด วันแรกที่รู้ว่าจะได้เข้ามาชกในรายการ ONE ลุมพินี ผมดีใจมาก จึงตั้งใจซ้อมให้หนักกว่าเดิมหลายเท่าจนมั่นใจว่าสามารถขึ้นไปชกได้ถึง 5 ยกแบบไม่หมดแรง รวมถึงยังปรับสไตล์จากมวยเข่าให้กลายเป็นมวยที่มีอาวุธหนักแรงทุกลูก ผลงาน 2 ไฟต์แรกจึงออกมาดีเกินคาด เพราะไม่ได้คิดว่าจะเปิดตัวได้สวยขนาดนี้ครับ”
“ตั้งแต่ได้ชกใน ONE ลุมพินี ชีวิตผมเปลี่ยนไปมาก ทุกวันนี้เวลาออกไปวิ่งก็มีคนเข้ามาทักและให้กำลังใจตลอด ด้านฐานะการเงินก็ดีขึ้น ทั้งจากค่าตัวและโบนัสที่สูงกว่าทุกรายการที่ผมเคยผ่านมา จนสามารถปลดหนี้รถได้หมด และยังมีเงินดูแลครอบครัวได้สบายขึ้น หากไฟต์นี้ได้โบนัสอีก ผมตั้งใจจะนำไปไถ่ที่ดินของครอบครัวที่อยู่ในธนาคารครับ”
“ผมยืนยันว่าไม่ได้เตรียมวลีนี้มาจากบ้าน ตอนอยู่บนเวทีตอนนั้น ผมแค่คิดว่าต้องพูดอะไรสักคำให้คนจดจำเราได้ แล้วอยู่ดี ๆ คำว่า ‘กระบี่ไม่หมูนะจ๊ะ’ ก็แวบขึ้นมาในหัว ผมเลยพูดออกไปโดยไม่คาดคิดว่าจะมีคนชอบมากขนาดนี้ และทำให้คนจำผมได้จริง ๆ ส่วนไฟต์ที่ 2 ผมแอบเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้พูดบนเวที แต่ถ้าไฟต์นี้ผมได้โอกาสสัมภาษณ์บนเวทีอีก ผมจะพูดอีกเพราะตอนนี้มันถือเป็นจุดขายของผมไปแล้วครับ”
สานิตย์ ปักธงน็อก สิงห์โดมทอง ไม่เกินยกสอง มั่นใจฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องในศึก ONE ลุมพินี
สานิตย์ นักชกดาวรุ่งจากจังหวัดกระบี่ กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นสุดขีด หลังสร้างชื่อกระหึ่มในศึก ONE ลุมพินี ด้วยผลงานน็อกคู่ต่อสู้ติดต่อกันถึง 2 ไฟต์ ล่าสุดเจ้าตัวเตรียมกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งในไฟต์ที่ 3 ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน โดยครั้งนี้ถือเป็นไฟต์สำคัญเพราะจะได้ขึ้นชกในฐานะ คู่รองของรายการเป็นครั้งแรก ซึ่ง สานิตย์ ตั้งเป้าชัดเจนว่าจะปิดเกมให้ได้ภายในสองยก เพื่อรักษาสถิติการชนะน็อกอย่างต่อเนื่อง
คู่ชกของเขาในไฟต์นี้คือ สิงห์โดมทอง นักชกมากประสบการณ์ที่เคยผ่านการชกบนเวที ONE ลุมพินี มาแล้วถึง 8 ครั้ง และเก็บชัยชนะไปได้ถึง 6 ไฟต์ แม้ไฟต์ล่าสุดจะสะดุดพ่ายแพ้ แต่เจ้าตัวยังถือเป็นนักมวยที่มีอาวุธครบเครื่องและจังหวะหนักแน่น ทำให้ไฟต์นี้กลายเป็นศึกเดือดที่แฟนมวยทั่วประเทศจับตา
อย่างไรก็ตาม สานิตย์ มั่นใจในฟอร์มของตัวเอง พร้อมเผยว่าการเตรียมร่างกายและกลยุทธ์ครั้งนี้เข้มข้นกว่าทุกไฟต์ที่ผ่านมา โดยเน้นทั้งเกมบู๊เดินลุยและอาวุธหนักในระยะประชิด ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าจะสามารถส่ง สิงห์โดมทอง ลงไปกองได้ก่อนครบยก พร้อมตั้งเป้าคว้าโบนัสน็อก 350,000 บาทเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
สานิตย์กล่าวว่า
“สิงห์โดมทอง เป็นมวยครบเครื่องทั้งในเกมรุกและรับ โดยเฉพาะหมัดฮุกซ้ายที่อันตราย จุดอ่อนคือเกมวงในยังไม่แข็งเท่าไหร่ ส่วนผมพื้นฐานเป็นมวยเข่า ถ้าได้โอกาสเบียดเข้าไปเล่นวงใน รับรองว่าสนุกแน่ครับ แต่ถ้าต้องยืนแลกวงนอกก็ไม่กลัว เพราะผมเตรียมอาวุธหนักไว้เต็มที่ โดยเฉพาะก้านคอและเข่าลอยที่ใช้ได้ผลดีในสองไฟต์ก่อนหน้า ถ้ามีจังหวะจะได้เห็นอีกแน่นอนครับ”
“ไฟต์นี้ผมจะไม่รีบเปิดเกมแรงเหมือนที่ผ่านมา เพราะการเจอกับนักชกไทยด้วยกันต่างรู้ทางกันดี จะเข้าไปบวกสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องดูเชิงกันก่อนว่าใครมาไม้ไหน แต่พอถึงยกสอง ผมมั่นใจว่าเกมจะเริ่มเดือดแน่ เพราะต่างฝ่ายต่างรู้ทรงกันแล้ว และผมตั้งใจจะลุยปิดเกมให้ได้ภายในยกนี้ครับ”
“ไฟต์นี้สำคัญมากสำหรับผมเพราะเป็นการขึ้นชกรองคู่เอกครั้งแรก ผมอยากโชว์ผลงานให้ดีที่สุดต่อหน้าแฟน ๆ เพื่อยืดสถิติชนะน็อกรวดเป็นครั้งที่ 3 ถ้าทำได้อย่างที่ตั้งใจ เชื่อว่าผมจะได้ก้าวไปอีกไกลในรายการนี้แน่นอนครับ”
ติดตาม “สิงห์โดมทอง vs สานิตย์” ศึก ONE ลุมพินี 128 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 10 ต.ค.นี้
ติดตามข่าวสารวงการมวย ได้ที่ มวยวัน วันนี้ ดูโปรแกมมวยอ่านข่าวมวย หรือติดตาม ผลมวย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สนใจแทงมวยออนไลน์ได้ที่ @UFA88SV2
