ถึงเวลาสร้างประวัติศาสตร์! “แจ็กกี” พร้อมแลก “สเตลลา” รวบตำแหน่งราชินีสองบัลลังก์

ข่าวมวย

ศึก ONE Fight Night 35 “แจ็กกี บุนตัน” ดวลเดือด “สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์” ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต

แฟนกีฬาการต่อสู้เตรียมรับชมความมันส์ระดับโลกในศึก ONE Fight Night 35 ที่กำลังจะระเบิดศึกบนเวทีอันทรงเกียรติ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยคู่เอกของรายการครั้งนี้คือการพบกันระหว่าง “แจ็กกี บุนตัน” เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ปอนด์) ที่พร้อมกลับมาล่าแชมป์โลกเส้นที่สอง ภายใต้กติกา ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ซึ่งยังคงว่างอยู่ คู่ต่อกรของเธอคือ “สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์” นักสู้สาวชาวออสเตรียที่กำลังจะได้โอกาสโชว์ฝีมือครั้งแรกบนเวที ONE (ใหญ่) ซึ่งแน่นอนว่าไฟต์นี้จะเป็นการพิสูจน์ทั้งพลังหมัด ความแข็งแกร่ง และความอันตรายของนักสู้หน้าใหม่ที่ต้องการสร้างชื่อบนเวทีระดับโลกทันทีที่ก้าวเข้ามา การดวลระหว่าง แจ็กกี บุนตัน vs สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ จึงไม่ใช่เพียงแค่การต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่คือเดิมพันแห่งเกียรติยศในฐานะแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ซึ่งจะถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลกในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ตรงกับเช้าวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 08:00 น. ตามเวลาไทย แฟน ๆ มวยไทยและคิกบ็อกซิ่งจึงไม่ควรพลาด เพราะนี่คือโอกาสสำคัญที่จะได้เห็นนักสู้สาวระดับโลกอย่าง แจ็กกี บุนตัน เดินหน้าล่าเข็มขัดเส้นที่สอง พร้อมทดสอบฝีมือกับผู้ท้าชิงไฟแรงอย่าง สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ บนเวทีลุมพินีที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ หากคุณคือคอมวย ต้องติดตามให้ได้!

ผลงาน 5 ไฟต์หลังสุดใน ONE ของ “แจ็กกี”

เส้นทางชีวิต “แจ็กกี บุนตัน” จากความยากลำบาก สู่การล่าแชมป์โลก ONE

“แจ็กกี บุนตัน” ถือเป็นหนึ่งในนักสู้หญิงที่แฟน ๆ ONE Championship จับตามองมากที่สุดในยุคนี้ ชีวิตในวัยเด็กของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เต็มไปด้วยความยากลำบากและอุปสรรคมากมาย เหมือนเส้นทางที่เต็มไปด้วยถนนลูกรัง แต่สิ่งที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตของเธอให้ก้าวข้ามความทุกข์ยากได้ คือการได้รู้จักกับศิลปะการต่อสู้อย่าง มวยไทย แจ็กกีเริ่มต้นฝึกมวยไทยตั้งแต่อายุยังน้อย ความมุ่งมั่นและใจสู้ทำให้เธอพัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็ว จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักสู้ต่างชาติที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมบนเวทีระดับโลก การผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่ง ความเร็ว และเทคนิคอันแม่นยำ ทำให้เธอได้รับการยอมรับในฐานะนักมวยหญิงแถวหน้าของรุ่นสตรอว์เวต เส้นทางใน ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ปอนด์) ของแจ็กกีถือว่าน่าจดจำที่สุดในปี 2565 เพราะเธอเคยมีโอกาสก้าวขึ้นชิงบัลลังก์แชมป์โลกมาแล้ว แม้สุดท้ายจะพ่ายแพ้อย่างน่าเสียดาย แต่ประสบการณ์ครั้งนั้นยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เธอไม่หยุดพัฒนา เป้าหมายของเธอคือการคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย มาครองให้ได้ วันนี้แจ็กกีกำลังเดินหน้าล่าฝันอีกครั้งบนสังเวียน ONE ด้วยหัวใจนักสู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ และแฟนมวยทั่วโลกต่างเฝ้ารอว่าเธอจะสามารถกลับมาเขียนประวัติศาสตร์หน้าสำคัญ คว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ได้หรือไม่

แจ็กกีก้าวข้ามความผิดหวัง สู่แชมป์ ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต

หลังจากเคยพลาดโอกาสคว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต เมื่อปี 2565 “แจ็กกี บุนตัน” ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง เธอยังคงเดินหน้าสร้างผลงานบนสังเวียน ONE Championship อย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นและหัวใจนักสู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ ผลงานของเธอนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเธอพร้อมก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งใน นักชกหญิงระดับโลก อย่างแท้จริง ตลอดเส้นทางหลังความผิดหวัง แจ็กกีสามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 6 ไฟต์ จากทั้งหมด 7 ไฟต์ที่ลงแข่งขันในกติกามวยไทย สถิติที่น่าประทับใจนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตทั้งทางด้านฝีมือและจิตใจบนเวทีระดับโลก แต่สิ่งที่ทำให้แฟน ๆ จดจำมากที่สุดคือการตัดสินใจครั้งสำคัญของเธอ เมื่อเลือกที่จะข้ามสายมาลองท้าทายในกติกา คิกบ็อกซิ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ ๆ ไฟต์ล่าสุดของแจ็กกีเกิดขึ้นในศึก ONE 169 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอขึ้นสังเวียนแข่งขันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง โดยต้องเผชิญหน้ากับ “อนิสสา เม็กเซน” นักสู้หญิงระดับตำนานจากฝรั่งเศส/แอลจีเรีย ที่มีประสบการณ์โชกโชนในเวทีโลก หลายคนต่างมองว่านี่คือบททดสอบที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งของเธอ แต่แจ็กกีกลับแสดงฟอร์มอันเฉียบคม ใช้ความเร็ว ความแม่นยำ และการออกอาวุธที่หลากหลาย ควบคุมเกมได้ตลอดการชก สุดท้ายเสียงระฆังสิ้นสุดการแข่งขันดังขึ้น กรรมการทั้งสามคนต่างชูมือให้แจ็กกี บุนตัน เป็นผู้ชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์ พร้อมคว้าเข็มขัด ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ที่ว่างอยู่ไปครองอย่างสง่างาม ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะในเชิงกีฬา แต่ยังเป็นหลักฐานยืนยันว่าเธอสามารถปรับตัวและก้าวข้ามความผิดหวังในอดีตได้อย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบันแจ็กกีมีสถิติอันน่าประทับใจ ชนะถึง 7 ไฟต์ จากทั้งหมด 8 ไฟต์ที่ลงแข่งขันภายใต้สังกัด ONE Championship และยังคงเป็นหนึ่งในนักชกหญิงที่แฟน ๆ ทั่วโลกจับตาเส้นทางอย่างใกล้ชิด เส้นทางของเธอแสดงให้เห็นว่า แม้ความพ่ายแพ้จะเป็นส่วนหนึ่งของกีฬา แต่หากไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ก็จะมาถึงในที่สุด ชัยชนะที่ศึก ONE 169 ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นใหม่ของแจ็กกีนักชกหญิงผู้ไม่ยอมแพ้ และในอนาคตแฟนมวยทั่วโลกต่างรอคอยว่าเธอจะสร้างประวัติศาสตร์อีกบทใหม่ใน ONE Championship ได้อย่างไร

แจ็กกีลุยศึก ONE มวยไทย หวังคว้าเข็มขัดเส้นที่สอง

การกลับมาของ แจ็กกี บุนตัน ในศึก ONE Fight Night 35 ครั้งนี้ ถือเป็นการคืนสู่กติกามวยไทยในรอบกว่า 1 ปี หลังจากสร้างผลงานประทับใจด้วยการคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวตมาแล้ว เธอกำลังตั้งเป้าหมายใหม่ในการล่า เข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ที่ยังว่างอยู่ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สองประเภทภายใต้ชายคา ONE Championship สำหรับแจ็กกีการกลับมากำหมัดในกติกามวยไทยไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเธอยอมรับว่ามีความแตกต่างจากคิกบ็อกซิ่งอย่างเห็นได้ชัด ทั้งจังหวะการเข้าทำ อาวุธหมัด เท้า เข่า ศอก ที่ต้องปรับใช้ใหม่ทั้งหมด การสวมนวมเล็กเปิดนิ้วทำให้ต้องเร่งปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้พร้อมที่สุดสำหรับไฟต์สำคัญที่กำลังจะมาถึง แม้จะเคยพลาดโอกาสคว้าแชมป์ ONE มวยไทย มาแล้วในปี 2565 แต่ครั้งนี้แจ็กกีแสดงถึงความมั่นใจและมุ่งมั่นเต็มที่ เธอมองว่าเป็น “โอกาสทองครั้งที่สอง” ที่ไม่อาจปล่อยหลุดมือได้ง่าย ๆ หากคว้าชัยชนะเหนือคู่ต่อสู้อย่าง สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ นักสู้สาวจากออสเตรีย ก็จะก้าวขึ้นเป็นเจ้าของเข็มขัดเส้นที่สอง และกลายเป็นนักชกหญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของรุ่นสตรอว์เวตใน ONE Championship

แจ็กกีกล่าวว่า

“ความรู้สึกมันต่างออกไปจริง ๆ ตอนซ้อมเพื่อเตรียมตัวในกติกาคิกบ็อกซิ่ง นวมใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนมีหมอนอยู่ในมือ คอยซับแรงปะทะ ทำให้การรับ-ส่งหมัดไม่รุนแรงจนเกินไป เวลาสู้ก็รู้สึกสบายกว่า”

“แต่พอเปลี่ยนมาใส่นวม 4 ออนซ์แล้วต้องต่อสู้กันยาว 15 นาที ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อะไรก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งมันจะต้องเป็นไฟต์ที่บ้าคลั่งสุด ๆ แต่ฉันกลับรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเส้นทางนักสู้ของฉันก็เริ่มจากกติกามวยไทย มันจึงเหมือนการได้ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง”

แจ็กกี บุนตัน ปะทะ สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ ศึก ONE มวยไทย คู่เดือด

การกลับมาล่าเข็มขัด ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ของแจ็กกีกลายเป็นไฟต์ที่แฟนกีฬาต่อสู้ทั่วโลกจับตามองอย่างมาก เพราะคู่ต่อสู้ครั้งนี้คือ สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ นักชกสาวจากออสเตรียที่กำลังมาแรงที่สุดในรุ่น โดยถือเป็นโอกาสครั้งที่สองที่แจ็กกีจะได้พิสูจน์ตัวเองบนเส้นทางการชิงบัลลังก์ หลังจากครั้งแรกเมื่อปี 2565 เธอเคยพลาดเข็มขัดไปอย่างน่าเสียดาย ด้าน สเตลลา นับเป็นน้องใหม่ไฟแรงที่สร้างชื่อจากผลงานยอดเยี่ยมบนเวที ONE ลุมพินี ด้วยการกวาดชัยชนะถึง 3 ไฟต์ติดต่อกัน สถิติระดับอาชีพปัจจุบันอยู่ที่ชนะ 8 ครั้ง และแพ้เพียงครั้งเดียว ทำให้เธอถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในเวที ONE Championship ความดุดันและพลังหมัดของสเตลลาถือเป็นอาวุธที่คู่แข่งต้องระวังเป็นพิเศษ การดวลกันระหว่าง แจ็กกี บุนตัน และ สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ ในศึก ONE Fight Night 35 จึงถูกมองว่าเป็น “มวยถูกคู่” อย่างแท้จริง ฝ่ายหนึ่งมีประสบการณ์สูงและเคยผ่านศึกชิงแชมป์โลกมาแล้ว ส่วนอีกฝ่ายคือดาวรุ่งพุ่งแรงที่เต็มไปด้วยความกระหายชัยชนะ ไฟต์นี้ไม่เพียงเป็นบทพิสูจน์เส้นทางของทั้งคู่ แต่ยังอาจกำหนดอนาคตของตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ที่ยังว่างอยู่ในเวลานี้

สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์

สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ เก็บตัวเข้มที่ภูเก็ตไฟต์คลับ ก่อนปะทะแจ็กกี บุนตัน ศึก ONE มวยไทย

การเตรียมตัวของ สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ ก่อนดวลกับแจ็กกีในศึก ONE Fight Night 35 ถือเป็นจุดสนใจอย่างมากสำหรับแฟนกีฬาต่อสู้ทั่วโลก นักชกสาวออสเตรียเลือกเดินทางมาเก็บตัวเข้มที่ ภูเก็ตไฟต์คลับ ค่ายมวยชื่อดังทางภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็นศูนย์รวมยอดนักสู้ระดับโลกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “ยอดมวย 3 พ.ศ.” พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ และ อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส ราชินี ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) ที่ต่างฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นภายในค่ายเดียวกัน สำหรับ สเตลลา การฝึกซ้อมที่ ภูเก็ตไฟต์คลับ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งด้านร่างกายและเทคนิคมวยไทย โดยเฉพาะการปรับตัวเข้ากับสไตล์นักสู้ไทยและเพิ่มความเร็วแรงในฝีมือ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปะทะกับคู่ชิงแชมป์โลกอย่างแจ็กกี ที่มีประสบการณ์สูงและเคยคว้าเข็มขัด ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต มาแล้ว ด้านแจ็กกีเผยว่าเธอติดตามผลงานของ สเตลลา มาโดยตลอด และยกย่องว่าคู่ชิงรายนี้คือคู่ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดในเวลานี้ ทั้งสองฝ่ายต่างมีความมุ่งมั่นสูงในการคว้าเข็มขัด ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ที่ว่างอยู่ การดวลกันครั้งนี้จึงถูกคาดหวังว่าจะเป็นไฟต์ที่ดุเดือดและเต็มไปด้วยความเข้มข้นทั้งเทคนิคและพลังหมัด ศึก ONE Fight Night 35: แจ็กกี vs สเตลลา จะถ่ายทอดสดจาก สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ตรงกับช่วงเช้าเวลา 08:00 น. ของวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 68 แฟนกีฬาต่อสู้ไม่ควรพลาดที่จะติดตามการแข่งขันครั้งสำคัญนี้ เพราะจะเป็นการชี้ชะตาผู้ที่จะคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต เส้นที่สอง

แจ็กกีกล่าวว่า

“สเตลลา เป็นนักสู้ที่ครบเครื่อง โดยเฉพาะในกติกามวยไทย ไม่ว่าจะเป็นการออกอาวุธที่หลากหลาย เกมวงในที่แข็งแกร่ง รวมถึงการมีโค้ชและทีมงานคุณภาพคอยสนับสนุน”

“ส่วนตัวฉันก็เป็นแฟนของค่ายภูเก็ตไฟต์คลับมาตลอด เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยนักสู้ที่ทั้งเก่งและทุ่มเท และสิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาในตัวของ สเตลลา อย่างชัดเจน ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เจอกับเธอในฐานะคู่ชิงแชมป์โลก เพราะนี่คือไฟต์ที่สมศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง”