แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน คืนสังเวียน ONE ลุมพินี 126 ปะทะ อาลี โคยูนชู
แฟนมวยห้ามพลาด ศึกมันส์ระเบิดเวทีใน ONE ลุมพินี 126 เมื่อ “แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน” กำปั้นดาวรุ่งวัยเพียง 21 ปี ดีกรีแชมป์มวยสากล กลับมาพร้อมพลังใจและความมั่นใจเต็มร้อย เพื่อพิสูจน์ฝีมือบนเวทีระดับโลกอีกครั้ง โดยเจ้าตัวเตรียมขึ้นชกภายใต้กติกา คิกบ็อกซิ่ง พิกัด 140 ปอนด์ ดวลเดือดกับ “อาลี โคยูนชู” นักสู้จอมแกร่งวัย 24 ปีจากตุรกี ที่ขึ้นชื่อเรื่องพละกำลังและสไตล์บู๊ดุดัน การเจอกันครั้งนี้ถือเป็นไฟต์กู้ศรัทธาของแสงอาทิตย์ ที่ตั้งเป้ากลับมาสร้างชื่อและเก็บชัยชนะเพื่อเรียกศรัทธาจากแฟนมวยทั่วโลก นอกจากความดุเดือดในสังเวียนแล้ว ONE ลุมพินี 126 ยังถูกจับตามองในฐานะอีกหนึ่งรายการที่ถ่ายทอดสดจาก เวทีมวยลุมพินี (รามอินทรา) ส่งตรงไปยังกว่า 195 ประเทศทั่วโลก เริ่มคู่แรกตั้งแต่เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย งานนี้แฟนมวยชาวไทยและต่างชาติเตรียมรับชมศึกสุดมันส์ที่อัดแน่นด้วยนักชกคุณภาพ การปะทะระหว่าง แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน กับ อาลี โคยูนชู จึงไม่ใช่เพียงไฟต์ธรรมดา แต่เป็นการวัดใจและโอกาสสำคัญในการก้าวสู่ระดับแถวหน้าของวงการคิกบ็อกซิ่งโลก
เสือแบล็ค vs แสงอาทิตย์
แสงอาทิตย์ ฟอร์มแรงบนเวที ONE ลุมพินี เดินหน้าสู่ไฟต์สำคัญ
แสงอาทิตย์กำปั้นดาวรุ่งวัย 21 ปี ยังคงเป็นที่จับตามองในเวทีระดับโลกอย่าง ONE ลุมพินี หลังจากเซ็นสัญญาเข้ามาไล่ล่าความสำเร็จ เจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนมวยผิดหวัง โดยประเดิมเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ “ซูปาร์ เย จัน” นักสู้จากเมียนมา ในศึก ONE ลุมพินี อีเวนต์ที่ 100 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งชัยชนะดังกล่าวทำให้ชื่อของแสงอาทิตย์ถูกพูดถึงอย่างมากในฐานะนักชกรุ่นใหม่ที่พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นของเวทีระดับอินเตอร์ ไม่เพียงเท่านั้น แสงอาทิตย์ยังเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เมื่อกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งในศึก ONE ลุมพินี 114 เพื่อเจอกับคู่แข่งจอมเก๋าอย่าง “เสือแบล็ค ท.พราน 49” ที่แม้ก่อนหน้านี้จะอยู่ในช่วงฟอร์มตกแพ้ติดต่อกันถึง 3 ไฟต์ แต่ก็ถือว่าเป็นมวยที่ผ่านศึกโชกโชนและประมาทไม่ได้ การเผชิญหน้าครั้งนี้จึงเป็นบทพิสูจน์สำคัญของแสงอาทิตย์ ว่าเขาจะรักษามาตรฐานและพัฒนาฝีมือบนเวที ONE ได้มากแค่ไหน แฟนมวยต่างคาดหวังว่าไฟต์นี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงและผลักดันให้ แสงอาทิตย์ก้าวสู่การเป็นนักสู้ระดับแถวหน้าของวงการ มวยไทยและคิกบ็อกซิ่งโลก
แสงอาทิตย์ พลาดพลิกล็อกในศึก ONE ลุมพินี
ศึก ONE ลุมพินี กลายเป็นเวทีพิสูจน์ความแกร่งของนักชกดาวรุ่งอย่างแสงอาทิตย์ ที่กำลังเป็นที่จับตามองในวงการมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง กระแสก่อนเกมแทบทุกเสียงต่างเชื่อมั่นว่าแสงอาทิตย์จะคว้าชัยได้ไม่ยาก เมื่อมีคิวเจอกับ เสือแบล็ค ท.พราน 49 ที่เพิ่งขึ้นชกกติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกใน ONE แถมยังอยู่ในช่วงฟอร์มตกจากการพ่ายติดต่อกันมาก่อนหน้า จึงทำให้หลายฝ่ายมั่นใจว่าไฟต์นี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงให้กับกำปั้นหนุ่มวัย 21 ปีจากสุรินทร์ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อขึ้นสังเวียนจริง แสงอาทิตย์แม้จะพยายามเดินหน้าบุกตามสไตล์ถนัด แต่กลับพลาดท่าให้กับเสือแบล็คที่โชว์ความเหนียวแน่นและวางเกมได้ดีกว่า จนสามารถกดแสงอาทิตย์ลงไปถึง 2 นับในยกสุดท้าย ก่อนเป็นฝ่ายคว้าชัยด้วยคะแนนเอกฉันท์เหนือความคาดหมาย ทำให้แฟนมวยถึงกับช็อกกับผลการแข่งขันครั้งนี้ หลังจบไฟต์ แสงอาทิตย์ยอมรับความผิดพลาดอย่างตรงไปตรงมา และประกาศว่าจะกลับไปแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อพัฒนาฝีมือให้แข็งแกร่งกว่าเดิม ความพ่ายแพ้ครั้งนี้แม้จะเป็นบทเรียนราคาแพง แต่ก็เป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะทำให้นักชกดาวรุ่งรายนี้กลับมาอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในเส้นทาง ONE ลุมพินี
แสงอาทิตย์กล่าวว่า
“ข้อผิดพลาดในไฟต์ล่าสุด มาจากการที่ผมกดดันตัวเองมากเกินไปว่าจะต้องชนะให้ได้ เพราะผมซ้อมมาอย่างหนัก และรู้สึกว่าทุกคนต่างคาดหวังให้ผมทำผลงานออกมาสวยที่สุด จนพอขึ้นชกจริงกลับเกิดอาการเกร็ง ออกอาวุธไม่เป็นธรรมชาติ ทำไม่ได้ตามแผนที่วางไว้ แล้วยิ่งพอมาเสียนับ ยิ่งทำให้ผมลนลานหนักกว่าเดิม จนกลายเป็นพลาดเสียนับซ้ำอีกครั้ง”
“แม้จะผิดหวังกับความพ่ายแพ้ แต่ผมไม่รู้สึกท้อเลย เพราะยังได้กำลังใจล้นหลามจากครอบครัวและแฟนคลับทั่วประเทศที่ส่งข้อความมาให้กำลังใจ ส่วนเสียงวิจารณ์ ผมก็เปิดใจอ่านเหมือนกันครับ เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ ทำให้ผมเห็นจุดบกพร่องของตัวเอง เพื่อนำไปแก้ไขและพัฒนาต่อไป”
แสงอาทิตย์ได้แรงบันดาลใจใหม่ เตรียมคืนเวที ONE ลุมพินี
การกลับมาครั้งนี้ของแสงอาทิตย์ บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา เพราะหลังจากพลาดพลั้งในไฟต์ก่อน เจ้าตัวได้นำประสบการณ์นั้นมาเป็นบทเรียน และเดินหน้าปรับปรุงฝีมืออย่างจริงจัง หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการได้รับคำแนะนำจากพี่เขยสุดที่รักอย่าง รถถัง จิตรเมืองนนท์ อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ปอนด์) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและหัวใจนักสู้ รถถังได้ถ่ายทอดทั้งเทคนิคการชกมวยไทยและการเสริมสร้างสภาพจิตใจให้แสงอาทิตย์อย่างใกล้ชิด ทำให้นักชกหนุ่มวัย 21 ปีมีพลังใจเต็มเปี่ยมในการเตรียมตัวสู่ไฟต์สำคัญ นอกจากนี้ แสงอาทิตย์ยังได้รับข้อคิดโดยตรงจากบิ๊กบอส ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง ONE Championship ที่มักมอบคำแนะนำกับนักกีฬาภายใต้สังกัดเพื่อยกระดับความเป็นมืออาชีพ คำสอนเหล่านี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แสงอาทิตย์น้อมรับและนำมาปรับใช้ในการฝึกซ้อมรอบใหม่ โดยตั้งเป้าว่าจะกลับมาอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม และแสดงให้แฟนมวยทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงบนเวที ONE ลุมพินี การผสมผสานทั้งพลังใจและทักษะที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การกลับมาครั้งนี้ของแสงอาทิตย์ถูกจับตามองเป็นพิเศษ และอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางใหม่ที่จะพาเขาไปสู่ความสำเร็จในระดับโลก
แสงอาทิตย์กล่าวว่า
“พี่รถถัง บอกว่าข้อผิดพลาดของผมในไฟต์ล่าสุดคือคิดเยอะเกินไปเวลาจะออกอาวุธ เขาแนะนำว่าไฟต์นี้ให้ผมปล่อยอาวุธตามธรรมชาติ ห้ามเกร็งหรือกังวล อยากออกอะไรก็ปล่อยไปเลยครับ ผมตั้งใจจะนำสไตล์การเดินชนแบบ พี่รถถัง มาประยุกต์ใช้ในรูปแบบของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่การเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าแลก แต่จะมีจังหวะและแผนในการรุกและรับอย่างชัดเจนระหว่างการเดินเข้าหาคู่ชก”
แสงอาทิตย์กล่าวว่า
“และเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้พบกับ บอสชาตรี ซึ่งผมได้รับคำแนะนำดี ๆ กลับมาด้วย บอสบอกว่าในไฟต์ล่าสุด ผมขึ้นไปชกโดยลืมสิ่งที่ถนัดที่สุดคือการออกหมัด ซึ่งเป็นเรื่องจริง เพราะตอนซ้อมผมเน้นเตะเยอะจนแทบไม่ได้ซ้อมหมัดที่เป็นอาวุธหลักของตัวเองเลย ไฟต์นี้ผมจึงปรับสมดุลการซ้อมใหม่ให้ครอบคลุมทั้งหมัดและเตะตามที่บอสแนะนำ”
“นอกจากนี้ บอสชาตรี ยังย้ำให้ผมมั่นใจในพลังหมัดของตัวเอง และบอกว่าเขาไม่ได้ผิดหวังที่ผมแพ้ในไฟต์ล่าสุด เพราะความพ่ายแพ้คือประสบการณ์ที่จะทำให้เติบโตขึ้น เขาจะคอยเป็นกำลังใจให้ผมเสมอครับ”
แสงอาทิตย์ปรับใจใหม่ พร้อมภารกิจกู้ศรัทธาในศึก ONE ลุมพินี
เส้นทางการต่อสู้ของแสงอาทิตย์ กำปั้นดาวรุ่งวัย 21 ปี กำลังเป็นที่จับตามองจากแฟนมวยทั่วประเทศ หลังจากเคยสะดุดพ่ายแบบพลิกล็อกในไฟต์ก่อนหน้า เจ้าตัวตัดสินใจปรับมุมมองและมายด์เซ็ตใหม่ ไม่กดดันตัวเองเหมือนที่ผ่านมา เพื่อก้าวขึ้นเวที ONE ลุมพินี อีกครั้งในไฟต์สำคัญที่หลายคนต่างเฝ้ารอ โดยครั้งนี้เขามีภารกิจสำคัญคือการกู้ศรัทธามหาชนให้กลับคืนมา พร้อมทั้งพิสูจน์ว่าตัวเองยังคงเป็นนักชกรุ่นใหม่ที่น่าจับตาที่สุดในเวทีระดับโลก ไฟต์นี้ แสงอาทิตย์ต้องเผชิญหน้ากับคู่ชกสายแข็งอย่าง อาลี โคยูนชู นักชกจอมแกร่งจากตุรกี วัย 24 ปี ที่มีดีกรีไม่ธรรมดา เจ้าของสถิติชนะ 15 จาก 18 ไฟต์ตลอดอาชีพการชก โดยอาลีเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 100 ด้วยผลงานยอดเยี่ยม สามารถเอาชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ “โยตะ ชิเกะโมริ” นักสู้จากญี่ปุ่นในกติกามวยไทยได้อย่างน่าประทับใจ และไฟต์นี้จะถือเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้โชว์ฝีมือในกติกาคิกบ็อกซิ่งบนเวที ONE ซึ่งเป็นสไตล์ถนัดของเจ้าตัว ทำให้ไฟต์นี้ถูกมองว่าเป็นบททดสอบใหญ่ของแสงอาทิตย์ ที่จะต้องดวลกับคู่แข่งที่ครบเครื่องและมั่นใจในพิกัดนี้เป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม แสงอาทิตย์ยืนยันหนักแน่นว่า เขาจะไม่กดดันตัวเองเหมือนที่ผ่านมา แต่จะเลือกใช้สไตล์การชกแบบใหม่ที่ผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองออกอาวุธได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ในความผ่อนคลายนั้นยังแฝงด้วยความอันตรายและพลังการโจมตีที่เฉียบคมกว่าเดิม จุดเปลี่ยนที่สำคัญของเจ้าตัวคือการเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต ทั้งจากการแพ้แบบพลิกล็อกและแรงกดดันที่แบกรับไว้มากเกินไป ครั้งนี้แสงอาทิตย์พร้อมใช้ประสบการณ์เป็นเกราะป้องกัน และใช้จิตใจที่แข็งแกร่งเป็นอาวุธลับบนสังเวียน
แสงอาทิตย์กล่าวว่า
“อาลี เป็นมวยที่ออกอาวุธได้ครบเครื่อง จุดเด่นของเขาคือการใช้หมัดคล้ายกับผม แต่ผมมั่นใจว่าหมัดของผมเร็วกว่า ถ้ามีจังหวะแลกหมัดกัน ผมอาจเห็นช่องแล้วกดเขาได้ก่อน และที่สำคัญผมจะไม่คิดเยอะตอนออกอาวุธแล้ว ผมปรับวิธีคิดมาใหม่ว่าถ้าออกอาวุธพลาดก็ไม่เป็นไร แค่ออกใหม่ให้โดนเท่านั้นก็พอครับ”
“ไฟต์นี้ผมเชื่อว่ารูปเกมจะสนุกกว่าที่ผ่านมาแน่นอน เพราะผมจะเลิกกดดันตัวเอง ขึ้นไปชกด้วยความสุข ทุกคนจะได้เห็นผมออกอาวุธมากขึ้น สุดท้ายไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ก็เป็นเรื่องของกีฬา แต่สิ่งที่แฟน ๆ คาดหวังได้คือเห็นผมพัฒนาและเติบโตในทุกครั้งที่ขึ้นชก ผมสัญญาว่าจะไม่หยุดพัฒนาจนกว่าจะถึงวันที่เฉิดฉาย หวังว่าทุกคนจะติดตามและส่งกำลังใจให้ผมจนถึงวันนั้นครับ”
ติดตาม “แสงอาทิตย์ vs อาลี” ศึก ONE ลุมพินี 126 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 26 ก.ย.นี้
ติดตามข่าวสารวงการมวย ได้ที่ มวยวัน วันนี้ ดูโปรแกมมวยอ่านข่าวมวย หรือติดตาม ผลมวย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สนใจแทงมวยออนไลน์ได้ที่ @UFA88SV2
