ย้ำแค้นเด็ดขาด! “อูเบด” เล็งต้อน “เพชรนาเคียน” ให้จนมุม ก่อนปิดเกมด้วยอาวุธลับ

ข่าวมวย

อูเบด ฮัสเซน ปะทะ เพชรนาเคียน คู่เอกอินเตอร์ ศึก ONE ลุมพินี 121

ศึกมวยไทยสุดมันส์กำลังจะระเบิดความเดือดในเวที ONE ลุมพินี 121 โดยคู่เอกภาคอินเตอร์ที่แฟนมวยทั่วโลกจับตามองคือการโคจรมาพบกันอีกครั้งของ “อูเบด ฮัสเซน” ดาวรุ่งไร้พ่ายวัยเพียง 19 ปี ลูกครึ่งปากีสถาน-สหราชอาณาจักร กับ “เพชรนาเคียน ศ.นาเคียน” นักสู้ประสบการณ์สูงวัย 30 ปี จากนครศรีธรรมราช ซึ่งทั้งคู่เคยดวลกันมาแล้ว และครั้งนี้คือไฟต์รีแมตช์ที่ทุกคนรอคอย

อูเบด ฮัสเซน เจ้าของสถิติไร้พ่าย กำลังมาแรงและได้รับการจับตามองในฐานะดาวรุ่งอนาคตไกลบนเวที ONE เขาแสดงความมั่นใจว่าจะใช้สไตล์การชกแบบบุกดุดัน เดินหน้ากดดันใส่เพชรนาเคียนตั้งแต่ยกแรก เพื่อปิดบัญชีด้วย “อาวุธลับ” ที่เตรียมมาโดยเฉพาะ หวังย้ำแค้นคู่แข่งให้ได้อีกครั้งในไฟต์สำคัญนี้ ขณะที่ เพชรนาเคียน นักสู้จากแดนใต้ไทย ไม่ยอมให้คู่ชกต่างชาติบุกมาเก็บชัยง่าย ๆ เขาเตรียมกลับมาพร้อมประสบการณ์บนสังเวียนที่สั่งสมมานับสิบปี จุดเด่นของเขาคือจังหวะการออกอาวุธที่แม่นยำ แข้งซ้ายทรงพลัง และความอึดที่พร้อมแลกทุกหมัดทุกแข้งเพื่อพลิกเกมล้างตาในครั้งนี้

ไฟต์นี้จะทำการแข่งขันภายใต้ กติกามวยไทย รุ่นแคตช์เวต 130 ปอนด์ โดยถูกวางให้เป็นคู่เอกภาคอินเตอร์ที่ถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก แฟนมวยไทยและแฟนกีฬาต่อสู้ต่างเฝ้ารอชมการปะทะที่เต็มไปด้วยความดุดันและศักดิ์ศรีจากสองนักสู้ต่างรุ่น ต่างสไตล์ ศึก ONE ลุมพินี 121 จะระเบิดความมันในวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคมนี้ ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น. รับรองได้ว่าไฟต์รีแมตช์ระหว่าง อูเบด ฮัสเซน vs เพชรนาเคียน จะไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังอย่างแน่นอน

ย้อนศึก ONE ลุมพินี 115 “อูเบด ฮัสเซน” คว่ำ “เพชรนาเคียน” คว้าชัยเดือด

ศึก ONE ลุมพินี 115 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในไฟต์ที่แฟนมวยให้ความสนใจมากที่สุด เมื่อสองนักชกดาวรุ่งไร้พ่ายอย่างอูเบดดาวรุ่งวัย 19 ปี จากปากีสถาน-สหราชอาณาจักร ต้องโคจรมาพบกับ เพชรนาเคียน ศ.นาเคียน นักชกมากประสบการณ์วัย 30 ปี จากนครศรีธรรมราช ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีดีกรีความโหดและสถิติการชกที่สวยหรูไม่แพ้กัน ทันทีที่ระฆังดังขึ้น ทั้งอูเบด และเพชรนาเคียน ต่างเปิดฉากบุกแลกอาวุธกันอย่างดุเดือด สร้างบรรยากาศในเวที ONE ลุมพินี ให้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นแบบไม่มีใครยอมใคร แฟนมวยต่างส่งเสียงเชียร์กันสนั่นเมื่อเห็นการปะทะที่เข้มข้นและรวดเร็วตลอดทุกวินาที

จุดเปลี่ยนของไฟต์เกิดขึ้นในสองยกแรก เมื่ออูเบดโชว์ศักยภาพการออกอาวุธที่แม่นยำและหลากหลายกว่า สามารถกดดันและทำคะแนนเหนือ เพชรนาเคียน ได้อย่างต่อเนื่อง แม้คู่แข่งจากไทยจะพยายามฮึดสู้เต็มที่ แต่ก็ไม่อาจต้านทานความดุดันของดาวรุ่งวัย 19 ปีรายนี้ได้ สุดท้ายกรรมการรวมคะแนนและชูมือให้อูเบดเป็นฝ่ายชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ สร้างความประทับใจแก่ผู้ชมทั่วโลกที่ติดตามการถ่ายทอดสด และตอกย้ำชื่อเสียงว่าเขาคือดาวรุ่งที่น่าจับตาแห่งวงการมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งในศึก ONE ลุมพินี ชัยชนะครั้งนั้นไม่เพียงแต่ทำให้อูเบดรักษาสถิติไร้พ่ายได้อย่างสง่างาม แต่ยังเพิ่มความมั่นใจให้เจ้าตัวก่อนการรีแมตช์ครั้งสำคัญกับ เพชรนาเคียน ที่จะเกิดขึ้นในศึก ONE ลุมพินี 121 วันที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะเดือดและเข้มข้นยิ่งกว่าไฟต์แรกอย่างแน่นอน

อูเบด ฮัสเซน ยอมรับยังไม่พอใจผลงาน แม้ชนะเพชรนาเคียนในศึก ONE ลุมพินี

แม้จะสามารถเอาชนะยอดนักชกไทยอย่าง เพชรนาเคียน ศ.นาเคียน ได้สำเร็จในศึก ONE ลุมพินี และสานต่อสถิติไร้พ่ายตลอดอาชีพเป็นไฟต์ที่ 12 รวมถึงเก็บชัยชนะ 3 ไฟต์ติดต่อกันบนเวทีระดับโลก แต่อูเบดดาวรุ่งวัย 19 ปี เชื้อสายปากีสถาน-สหราชอาณาจักร ยังคงออกมาเผยว่าเขาไม่พอใจกับฟอร์มการชกของตัวเองในไฟต์ดังกล่าวมากนัก ในไฟต์ที่พบกับ เพชรนาเคียน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แฟนมวยต่างเห็นว่า อูเบดโชว์ศักยภาพการออกอาวุธได้อย่างหลากหลาย ทั้งหมัดและแข้งที่เข้าเป้าอย่างต่อเนื่อง ก่อนคว้าชัยชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์ ทว่าเจ้าตัวกลับมองว่าตนเองยังทำได้ไม่เต็มศักยภาพ และมีหลายจังหวะที่ควรปิดเกมได้ชัดเจนมากกว่านี้

คำให้สัมภาษณ์ของอูเบดแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและมาตรฐานที่เจ้าตัวตั้งไว้สูง ซึ่งไม่เพียงทำให้แฟนมวยชื่นชมฝีมือ แต่ยังยกย่องในความจริงจังและความทะเยอทะยานของเขาที่ต้องการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ชัยชนะเหนือ เพชรนาเคียน ศ.นาเคียน ไม่เพียงช่วยยืนยันว่าอูเบดคือดาวรุ่งที่กำลังมาแรงในศึก ONE ลุมพินี แต่ยังเพิ่มความคาดหวังจากแฟน ๆ ที่รอชมไฟต์ต่อไปของเขา โดยเฉพาะการรีแมตช์ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการชกที่ดุเดือดยิ่งกว่าเดิมแน่นอน

อูเบดกล่าวว่า

“ไฟต์ล่าสุดกับ เพชรนาเคียน ผมมองว่าตัวเองออกหมัดและเตะได้ดี โดยเฉพาะลูกเตะเจาะยางที่เล่นงานขาหลัง รวมถึงเกมวงในที่ผมเหนือกว่า”

“เขาเองทำได้ดีกว่าในเรื่องการเดินกดดันและจังหวะบู๊ระยะประชิด แต่โดยรวมผมยังรู้สึกว่านั่นยังไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุด เพราะผมยังปิดเกมไม่ได้ครับ”

อูเบดมองทะลุเกมการชก เตรียมอาวุธลับย้ำแค้นเพชรนาเคียน ในศึก ONE ลุมพินี 121

ศึกที่แฟนมวยกำลังรอคอยกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เมื่ออูเบดนักชกดาวรุ่งวัยเพียง 19 ปี ผู้ครองสถิติไร้พ่าย 12 ไฟต์ จะได้โคจรกลับมาดวลกับคู่ปรับเก่าอย่าง เพชรนาเคียน ศ.นาเคียน ในศึก ONE ลุมพินี 121 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ไฟต์นี้ถูกจับตามองอย่างมาก เพราะการเจอกันครั้งแรกสร้างความมันสะใจให้แฟน ๆ ทั่วโลก ย้อนกลับไปในศึก ONE ลุมพินี 115 ทั้งสองฝ่ายต่างมีสถิติไร้พ่าย ก่อนถูกประกบให้มาเจอกันเป็นครั้งแรก ผลปรากฏว่าเกมการชกดำเนินไปอย่างสูสี ทั้งอูเบด และเพชรนาเคียน ต่างเปิดเกมบุกใส่กันแบบไม่มียั้ง ทำให้แฟนมวยนั่งไม่ติดเก้าอี้ กระทั่งครบสามยก กรรมการชูมือให้อูเบดเอาชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ เก็บชัยชนะสำคัญ และยืดสถิติไม่แพ้ใครได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หลังไฟต์ดังกล่าว อูเบดกลับเปิดใจว่ายังไม่พอใจกับผลงานตนเองมากนัก เขามองว่ามีหลายจังหวะที่ยังขาดความเด็ดขาด และต้องพัฒนาเกมการชกให้รัดกุมยิ่งขึ้น ดังนั้นการเจอกันครั้งที่สองในศึก ONE ลุมพินี 121 จึงเป็นโอกาสทองที่จะพิสูจน์ให้แฟนมวยเห็นถึงพัฒนาการและความเฉียบคมของเขา

สำหรับไฟต์นี้ อูเบดเลือกเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ ค่ายมวยเกียรติพลทิพย์ยิม ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการผลิตนักชกระดับคุณภาพ เขาได้วางแผนการชกมาโดยเฉพาะเพื่อแก้ทางการเดินหน้าออกอาวุธอย่างดุดันของ เพชรนาเคียน พร้อมย้ำว่ามี “อาวุธลับ” ที่จะใช้พลิกเกมและย้ำแค้นคู่ปรับให้ชัดเจนกว่าครั้งก่อน นอกจากการรักษาสถิติไร้พ่ายแล้ว ไฟต์นี้ยังมีแรงจูงใจสำคัญคือโอกาสคว้า โบนัสพิเศษ 350,000 บาท หากสามารถโชว์ฟอร์มได้เหนือชั้นและสร้างความประทับใจต่อแฟน ๆ และผู้จัด ONE ซึ่งอูเบดเคยทำได้มาแล้วหนึ่งครั้ง ทำให้เขายิ่งกระหายที่จะสร้างชัยชนะอันเด็ดขาดอีกครั้ง

การกลับมาเจอกันของ อูเบด ฮัสเซน และ เพชรนาเคียน ศ.นาเคียน ในศึก ONE ลุมพินี 121 จึงไม่ใช่เพียงการชกธรรมดา แต่คือศึกย้ำแค้นที่เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีและอนาคตของทั้งคู่ ฝ่ายหนึ่งต้องการพิสูจน์ว่าเขาคือของจริง ส่วนอีกฝ่ายหวังล้างตาและยุติสถิติไร้พ่ายของคู่แข่ง งานนี้แฟนมวยทั่วโลกต่างรอชมว่าใครจะเป็นผู้ก้าวขึ้นแท่นตัวจริงในเวที ONE

อูเบดกล่าวว่า

“จากที่เจอกันไฟต์แรก ผมอ่านหมัดชุดของ เพชรนาเคียน ได้หมด และบอกตรง ๆ ว่าหมัดเขาไม่ได้หนักอย่างที่คิด ผมมั่นใจว่าเขากลัวทั้งหมัดและลูกเตะลำตัวของผมด้วยซ้ำ แถมยังมีจังหวะก้มศีรษะติดเป็นนิสัย ซึ่งนั่นคือโอกาสที่ผมจะปล่อยอาวุธลับที่เตรียมไว้จัดการเขา”

“ไฟต์นี้ผมเชื่อว่าเขาน่าจะเปลี่ยนแผนการชกเล็กน้อย ส่วนผมตั้งใจจะเดินบุกมากขึ้น แต่จะไม่เข้าใกล้เกินไป ผมจะพยายามคุมเกม เดินกดดันต้อนให้เขาจนมุม แล้วหาจังหวะปิดเกมให้ได้ เพื่อลุ้นโบนัสไปเป็นทุนการศึกษาครับ”