ขอตีไข่แตก! “เมืองไทย” มั่นใจใช้พลังสดบด “เสกสรร” ไล่แต้มคืนในศึกภาค 5
“ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย พีเค.แสนชัย กำปั้นพลังอึด วัย 31 ปี จากบุรีรัมย์ เชื่อว่าสภาพร่างกายที่สดกว่าจะช่วยให้สามารถเอาชนะคู่ปรับเก่าอย่าง “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง จอมบู๊สายลุย วัย 36 ปี จากนครศรีธรรมราช ได้เป็นครั้งแรก หลังแพ้มา 4 ครั้ง ในการเจอกันนอกสังเวียน ONE โดยในภาค 5 นี้ ทั้งคู่จะสู้กันภายใต้กติกามวยไทย 140 ป. ในฐานะคู่รองของศึกนัดใหญ่ ONE ลุมพินี 114 ที่จะถ่ายทอดสดไปสู่ 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย. นี้
ผลงาน 5 ไฟต์หลังสุดของ “เมืองไทย”
หลังจากที่ฟอร์มสะดุดลงไปด้วยการพ่ายให้กับ “นาบิล อานาน” และ “นักรบ แฟร์เท็กซ์” ถึง 2 ไฟต์ติดต่อกัน ทำให้ “เมืองไทย” ต้องรีบกลับไปทำการบ้าน ทบทวนบทเรียนข้อผิดพลาดอย่างหนัก จนกระทั่งเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้ง ด้วยการปิดเกมน็อกมวยเชิงสูงอย่าง “ก้องศึก แฟร์เท็กซ์” ในศึก ONE ลุมพินี 84 เมื่อเดือน ต.ค.67
ก่อนที่ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เขาจะยกระดับความร้อนแรงขึ้นอีกขั้นด้วยการขนอาวุธหนักไล่ถล่มทีเคโอ “อิบรากิม อับดุลเมชิดอฟ” จากรัสเซีย ไปแบบหมดสภาพ ซึ่งชัยชนะแบบไม่ครบยกใน 2 ไฟต์หลังสุด ได้ทำให้ เขากลับมามีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
เขากล่าวว่า
“2 ไฟต์ล่าสุดที่ชนะแบบไม่ครบยกมา ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจมาก เพราะก่อนหน้านี้ผมแพ้ทั้ง นาบิล และ นักรบ มา ซึ่งตอนนั้นมีคำสบประมาทเข้ามาหลายทาง ผมเป็นคนที่เจอคำแบบนี้แล้วยิ่งฮึดอยากพิสูจน์ตัวเอง พอชนะได้ก็รู้สึกสะใจไม่น้อย ไฟต์ล่าสุดเลยเผลอแสดงอารมณ์ออกมานิดหน่อยครับ”
“เบื้องหลังที่ทำให้ผมกลับมาฟอร์มดีได้ เพราะผมเป็นคนตั้งใจมาก ตอนซ้อมก็รู้หน้าที่ตัวเองเสมอ ผมอยากผลักดันตัวเองให้กลับมามีกระแส มีชื่ออีกครั้ง ซึ่งตอนนี้รู้สึกภูมิใจมากที่ตัวเองเรียกฟอร์มกลับมาได้ และยังทำให้แฟนมวยชื่นชอบที่ผมชกสนุกถูกใจด้วยครับ”
ภาค 5 ถึงตาผมชนะ
ไฟต์ที่ 9 บนสังเวียน ONE ลุมพินี ของ “เมืองไทย” จะต้องพบกับคู่ปรับเก่าอย่าง “เสกสรร” ที่ในอดีตเคยแลกเดือดกันในรูปแบบมวยไทย 5 ยกนวมใหญ่ มาแล้วถึง 4 ไฟต์ และเป็น “เสกสรร” ที่ทำแสบเบียดชนะคะแนนเอกฉันท์ไปแบบสุดมันทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม การเจอกันในครั้งนี้จะเกิดขึ้นในรูปแบบมวยไทย 3 ยก นวมเล็ก ซึ่งเขาคาดการณ์ว่าเกมการชกน่าจะออกมาแตกต่างจาก 4 ภาคที่ผ่านมา
เขากล่าวว่า
“เจอกับ เสกสรร ครั้งนี้ น่าจะแตกต่างจากเดิมพอสมควร เพราะตอนชก 5 ยก อาจมีเรื่องของราคาต่อรอง รวมถึงทรงมวยมาเกี่ยวข้องด้วย แต่การชกในรายการของ ONE ต้องเน้นออกอาวุธให้เข้าเป้าเพื่อทำคะแนน อาจทำให้เกมการชกง่ายกว่าเดิมสำหรับผมครับ”
แม้จะยังไม่เคยคว้าชัยเหนือ “เสกสรร” ได้เลยสักครั้ง แต่ “เมืองไทย” มองว่าด้วยระยะเวลาที่ห่างจากการเจอกันไฟต์ล่าสุดมานานกว่า 6 ปี อีกทั้งยังต้องเปลี่ยนมาสู้กันภายใต้กติกามวยไทย 3 ยกนวมเล็ก จะทำให้ตอนจบของการพบกันในภาคที่ 5 ไม่จบลงเหมือน 4 ภาคที่ผ่านมาแน่นอน
เขากล่าวว่า
“4 ไฟต์ที่ผ่านมา เราสู้กันสนุกทุกครั้ง ต่างคนต่างแลกกันตลอด แต่ส่วนใหญ่เกมมักจะพลิกในช่วงท้าย เพราะ เสกสรร เก๋ากว่าเยอะ บางจังหวะเขาใช้เทคนิคฉลาด อย่างเช่นลูกเตะลงเอวมาเล่นงานผม และออกอาวุธได้หลากหลายครบเครื่องมาก ซึ่งแต่ละอย่างก็น่ากลัวทั้งนั้นครับ”
“แต่ไฟต์นี้ผมน่าจะได้เปรียบทั้งรูปร่างและสภาพร่างกายที่ยังสดกว่า เพราะ เสกสรร ช่วงหลังดูโรยราลงไป เวลาที่โดนหนัก ๆ ก็มีอาการให้เห็น เรื่องอายุน่าจะมีผลต่อสภาพร่างกาย และยิ่งครั้งนี้เราต้องมาเจอกันในรูปแบบมวยไทย 3 ยกนวมเล็กใน ONE ลุมพินีด้วยแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ ผมเชื่อว่าจะเก็บชัยชนะได้ด้วยอาวุธและความใจสู้ของผมครับ”
“ส่วนรูปเกมน่าจะออกมาสนุกมาก เพราะผมกับ เสกสรร เป็นมวยสไตล์เดียวกัน แลกกันมันแน่นอน ไฟต์นี้ไม่อยากให้ทุกคนพลาดชมเลยครับ”
เขากล่าวว่า
“ผมแพ้ เสกสรร มา 4 ครั้งแล้ว ผมมุ่งมั่นอยากชนะให้ได้ และยิ่งเขาเป็นนักชกที่มีสัญญา ONE ด้วย ถ้าผมชนะได้ก็น่าจะมีโอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิตผมอีกเยอะ ผมจึงตั้งใจเป็นพิเศษ และขอฝากถึง เสกสรร นะครับ ตําแหน่ง ‘คนไม่ยอมเมีย’ ผมยกให้พี่ แต่บนเวที ผมไม่ยอมใคร”
ติดตาม “เสกสรร vs เมืองไทย” ศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 114 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 27 มิ.ย.นี้
ติดตามข่าวสารวงการมวย ได้ที่ มวยวัน วันนี้ ดูโปรแกมมวยอ่านข่าวมวย หรือติดตาม ผลมวย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สนใจแทงมวยออนไลน์ได้ที่ @UFA88SV1